ปัญหาของการสร้างคอนเทนต์มักเป็นการเริ่มต้นการเขียน อย่างในบางครั้งก็มีเนื้อหามากมายที่เราอยากจะสื่อสาร หรือบางครั้งก็เป็นเรื่องยากเหลือเกินในการหาเรื่องราวมาบอกเล่า นอกจากแคมเปญตั้งต้นที่ต้องชัดเจนแล้ว
สิ่งที่ผู้สร้างคอนเทนต์ควรทำมากที่สุดในการเริ่มต้นเขียนคือสำรวจ “จุดประสงค์” ของการสร้างคอนเทนต์นั้น ๆ ขึ้นมา เช่น เราอยากสร้างคอนเทนต์นี้เพื่อให้ข้อมูล ส่วนคอนเทนต์อื่น ๆ อาจเป็นคอนเทนต์เพื่อแสดงและเสริมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ ซึ่งคอนเทนต์ต่าง ๆ ก็จะแตกต่างกันไปแล้วแต่การวางคอนเทนต์ของผู้สร้างคอนเทนต์
หลาย ๆ ครั้งเรามักโฟกัสที่ส่วนอื่นของคอนเทนต์ ทำให้การเกาะติดกับไอเดียจุดประสงค์น้อยลงไปบ้าง แต่ยักษ์ย๊ากส์แนะนำให้เกาะให้แน่นเลยฮะ เพราะเจอมาก่อนเจ็บมาก่อนกับการที่ลืมจุดประสงค์การสร้างคอนเทนต์ตอนแรกทำให้คอนเทนต์ที่คิดออกมามีเนื้อหาและจุดประสงค์ออกทะเลมากมาย นอกจากการคุมคอนเทนต์จะยากแล้ว การทำคอนเทนต์ก็รวนอีกด้วยคับ
หลังจากเราตั้งมั่นกับ “จุดประสงค์แล้ว ”ต้องมาดูว่าเราสามารถสื่อสาร “จุดประสงค์” ของเราผ่านทางคอนเทนต์ที่เราสร้างได้ดีแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นการบรรยาย การใช้ภาพ การทำเป็นวิดีโอ Motion ก็ตามคับ
อันนี้คือไม่ได้พูดถึงเรื่องความสวยงามของภาพประกอบเลยนะฮะ แค่ “การสื่อสาร” ของศิลปินผู้สร้างคอนเทนต์เลยล้วน ๆ มันคือการที่ผู้รับสารสามารถได้รับสารและเกิดผลลัพธ์ตามที่เรามุ่งหวังคับ
กล่าวสรุปโดยง่าย การทีคอนเทนต์ที่ดีก็คือการ “สื่อสารได้ตามที่มุ่งหวัง” และ “เกิดผลลัพธ์” กับกลุ่มคนที่เราตั้งเป้าหมายไว้ฮะ
แล้วยักษ์ย๊ากส์ก็ขอแนะนำ 3 หลักการประเมินคุณค่าของคอนเทนต์อย่างง่าย ๆ ฮะ
เป็นหลักง่าย ๆ ของยักษ์ย๊ากส์ที่จะทำให้ต่อยอดได้มากมายเลยฮะ ใช้วิเคราะห์กับชิ้นงานต่าง ๆ ได้ตลอด ซึ่ง 3 แกนนี้มีไว้เพื่อรีเช็คผลงานของเรา
นอกจากเรื่องการประเมินว่าคอนเทนต์ของเราดีหรือไม่ดีแล้วนั้น มีอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นเรื่องสำคัญที่ยักษ์ย๊ากส์มองว่าคนทำคอนเทนต์ควรทำความเข้าใจคือเรื่องของความ “ปกติ” และ “ไม่ปกติ” ฮะ ซึ่งเมื่อเริ่มผลิตคอนเทนต์ เราอาจต้องเริ่มดูก่อนว่าคอนเทนต์ที่เราทำนั้นอ้างอิงบนความปกติของใคร
เรากำลังทำสิ่งที่เป็นความปกติของเราใช่หรือไม่ และสิ่งปกติของเราเป็นสิ่งปกติกับคนอื่นด้วยหรือเปล่า สิ่งนี้อาจจะพออธิบายหลาย ๆ คอนเทนต์ในโลกปัจจุบันได้ว่าทำไมคอนเทนต์แต่ละกลุ่มถึงมีความหลากหายและแตกต่างกันไป ตั้งแต่วิธีการนำเสนอ วิธีการตัดต่อ หรือแม้กระทั่งการใช้คำต่าง ๆ ซึ่งนั่นเกิดขึ้นจากการที่แต่ละกลุ่มคนนั้นมีความปกติที่แตกต่างกัน
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลกออนไลน์คือการที่ช่องทางออนไลน์เปิดโอกาสให้คนจำนวนมากได้มีสื่อเป็นของตัวเอง ได้สร้างเครือข่ายข่าวสารของตัวเอง ทำให้เกิดทางเลือกใหม่ของการสร้างวัฒนธรรมการสื่อสารในวิธีที่ต่างกันไป บางกลุ่มถนัดการใช้ภาพ บางกลุ่มถนัดทำวิดีโอ บางคนถนัดการเล่าเรื่องแบบอารัมภบท และบางคนก็ถนัดการเล่าแบบกระชับ รวดเร็ว
เมื่อเรามีตัวเลือกมากยิ่งขึ้นการทำคอนเทนต์ที่ “ปกติ” จึงมีความหลากหลายทำให้ยากที่จะสรุปได้ว่าคอนเทนต์แบบไหนดีไม่ดี เพราะแต่ละแบบมีฐานคนดูติดตามของตัวเอง
ซึ่งเมื่อเป็นแบบนี้เหล่านักสร้างคอนเทนต์จึงต้องพิจารณาอยู่เสมอว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ยังเป็นปกติกับกลุ่มเป้าหมายที่ตนเองต้องการหรือไม่ เพราะเราต้องผลิตคอนเทนต์ให้เหมาะกับความต้องการเสพของผู้ที่เป็นเป้าหมายของเราด้วยเช่นกันฮะ
ยักษ์ย๊ากส์หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเนื้อหาของบทความนี้จะทำให้ศิลปินผู้สรรค์สร้างคอนเทนต์ทำคอนเทนต์ออกมาได้ตอบโจทย์จุดประสงค์ของตนเองมากยิ่งขึ้นฮะ
- ยักษ์ย๊ากส์ บริษัทการตลาดออนไลน์ -
สงขลา หาดใหญ่